ฮือฮา ถ่ายภาพติด “พญานาค” ที่กลางลำน้ำโขง “พระธาตุพนม”

พญานาคที่พระธาตุพนม-1

ฮือฮา ชาวบ้านใน จ.นครพนม พบพญานาค ในขณะที่ไปร่วมบุญที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งในขณะที่ทางวัดกำลังจัดพิธีบวงสรวงพญานาคอยู่นั้น ได้มีพญานาคโผล่ออกมากลางลำน้ำโขงนานเกือบครึ่งชั่วโมง จนชาวบ้านสามารถเก็บภาพมาได้ ขณะที่ได้นำปลาไปปล่อย

     เมื่อวันที่ 10 ต.ค.56 เวลา 02.00น.  ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้จัดงานบวงสรวงพญานาค โดยมี พระเทพวรมุนี วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ สัตนาคารำลึกบวงสรวงพญานาค ซึ่งเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมานานกว่า 50 ปี แล้ว ซึ่งในทุกๆปีจะจัดขึ้นก่อนเทศกาลออกพรรษา ในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี โดยความร่วมมือของจังหวัดนครพนม คณะสงฆ์จังหวัดนครพนม และพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศ เพื่อเป็นการสักการบูชาพญานาค หรือองค์สัตนาคา ทั้ง 7 ตน ผู้ดูแลปกปักรักษา องค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง โดยภายในได้บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นโอกาสสำคัญที่สมเด็จหลวงพ่อพญานาค หรือองค์สัตนาคา จะได้มีโอกาสมาประทับร่างทรง โปรดพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญ รวมถึงปรึกษาปัญหาทั้งทางโลกและทางธรรม ที่ถือปฏิบัติมาแต่อดีต

พญานาคที่พระธาตุพนม-3

    โดยพิธีศักดิ์สิทธิ์ สัตนาคารำลึก หรือพิธีบวงสรวงพญานาค จะมีการนำพานบายศรีรูปพญานาค จัดวางเป็นที่ประทับจำนวน 7 องค์ พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ผลไม้ และดอกไม้ธูปเทียนมาทำพิธีสักการบูชา สวดเจริญภาวนาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ไปจนถึงเวลาตีสอง ซึ่งถือเป็นที่เชื่อว่าพญานาคแต่ละองค์ ทั้งหมดจำนวน 7 องค์ จะเสด็จลงมาประทับร่างทรง เพื่อโปรดเทศนาสั่งสอนหรือทำนายทายทัก และรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ ประชาชนที่มาร่วมพิธี และในบางปีจะมีชาวบ้านพบเห็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์มีแสงสีพวยพุ่งมายังองค์พระธาตุพนม และมีการเกิดเงาพระธาตุบนท้องฟ้า เป็นประจำตลอดทุกปี ทำให้ทุกปีมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วมพิธี เพื่อเป็นสิริมงคล ขอพรจากองค์พญานาค และองค์พระธาตุพนมจำนวนมาก

     ขณะเดียวกันในปีนี้ได้มีศิษยานุศิษย์ คณะลูกศิษย์พระเทพวรมุนี ที่เดินทางมาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสมทบทุนบำรุงวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จาก กทม. ซึ่งไม่ต้องการที่จะเปิดเผยชื่อ ได้พบเหตุการณ์แปลกประหลาดช่วงกลางวัน ก่อนทำพิธีสัตนาคารำลึก เชื่อว่า เป็นการแสดงปาฏิหาริย์ขององค์พญานาค ภายหลังได้มีการซื้อปลาจากหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จำนวน 67 กิโลกรัม เพื่อนำไปปล่อยที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ด่านตรวจคนเข้าเมืองในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม ได้พบเรื่องปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ในช่วงปล่อยปลา ขณะตั้งจิตอธิษฐานให้องค์พญานาคดูแลรักษาปลาที่ปล่อยลงสู่น้ำโขง เพื่อเป็นบุญกุศล เนื่องจากมีความเชื่อว่า องค์พญานาคเป็นผู้ดูแลปกปักษ์รักษาแม่น้ำโขง จนกระทั่งได้พบสิ่งแปลกประหลาด ที่เชื่อว่าเป็นพญานาค เนื่องจากมีลักษณะรูปร่างคล้ายพญานาคที่มีในตำนาน โผล่ขึ้นเหนือน้ำ ชูเศียรชัดเจน ลำตัวเป็นสีเหลืองทองอร่าม ความยาวประมาณ 30 – 40 เมตร ลอยวนเวียนไปมาทวนกระแสน้ำเสียงดังถึงริมฝั่ง เป็นเวลาประมาณเกือบ 30 นาที ในระยะห่างจากฝั่งประมาณ 300 – 400 เมตร โดยมีผู้พบเห็นเหตุการณ์ร่วมกันถึง 6 คน สร้างความตกใจให้กับคนที่พบเห็นด้วยกัน จึงตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรตามความเชื่อ เพราะเชื่อว่าองค์พญานาคมาปรากฏกายให้เห็น ในโอกาสที่มาร่วมงานสัตนาคารำลึก ที่สำคัญยังสามารถบันทึกภาพนิ่งด้วยกล้องไว้บางส่วน ก่อนนำมาอัดขยายถวายให้กับวัดให้พุทธศาสนิกชนได้ชม และกราบไหว้

พญานาคที่พระธาตุพนม-4

  ทางผู้ที่พบเห็นได้บอกว่า เป็นเรื่องที่แปลกมากและไม่เคยพบเห็นมาก่อน ถ้าเล่าให้ใครฟังคงเชื่อยากเพราะไม่ไดเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องของความเชื่อแต่ละบุคคล และยืนยันว่า ภาพที่เห็นมีความชัดเจนมาก จากที่เคยดูตามข่าวหลายครั้ง เพราะสามารถมองเห็นลักษณะเศียรที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำ รวมถึงลำตัวที่ชัดเจน เหมือนรูปปั้นพญานาคที่มีตามวัดต่าง ๆ ที่ชัดเจนกว่านั้นหลังเดินทางออกมาจากริมแม่น้ำโขง ตนเองนั้นก็ได้อธิษฐานจิตขอให้องค์พญานาคปรากฏกายอีก เป็นการยืนยัน จึงกลับไปยังริมแม่น้ำโขงอีกครั้ง ทำให้ได้เห็นการปรากฏกายอีกรอบ ยิ่งทำให้เกิดความแน่ชัดมากขึ้น

    พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร กล่าวว่า พิธีศักดิ์สิทธิ์สัตนาคารำลึก หรือพิธีบวงสรวงพญานาค เกิดขึ้นตามประวัติความเป็นมาจาก ในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 ปี พ.ศ.2500 ได้มีชาวบ้านในเขต อ.ธาตุพนม เห็นแสงประหลาดเป็นลำสวยงามขนาดเท่าลำต้นตาลขนาดใหญ่มีสีต่าง ๆ กันถึงเจ็ดสี พุ่งแหวกอากาศแข่งกันเป็นลำยาวหลายเส้น จากทางด้านทิศเหนือ มองเห็นแสงสีงามประหลาด แล้วหายเข้าไปในองค์พระธาตุพนม ต่อมาได้เกิดปาฏิหาริย์มีประทับร่างทรงสามเณรในวัด พร้อมกล่าวบอกว่า ลำแสงที่ชาวบ้านพบเห็นเป็นพญานาค 7 องค์ มีนามตามลำดับเป็นมงคลตามอริยทรัพย์อันประเสริฐ คือ 1. พญาสัทโทนาคราชเจ้า เป็นประธาน 2. พญาศีลวุฒินาโค 3. พญาหิริวุฒนาดโค 4. พญาโอตตัปปะวุฒนาโค 5. พญาสัจจะวุฒินาโค 6. พญาจาคะวุฒนาโค 7. พญาปัญญาเตชะวุฒนาโค ที่มีวิชาความรู้แตกต่างกัน ได้เสด็จมารักษาพระอุรังคธาตุ เนื่องจากเทพยดาที่รักษาองค์พระธาตุอยู่ก่อน นิสัยไม่ดีอาศัยกินสินบนและเครื่องเซ่นสรวงของชาวบ้าน ที่จะทำให้เกิดเสื่อมศรัทธา ต้องมาประทับรักษาแทน หลังจากนั้น เมื่อมีเหตุการณ์หรือเรื่องเดือดร้อนต่าง ๆ พญานาคก็จะมาประทับร่างทรง เพื่อโปรดชาวบ้านเทศนาสั่งสอน สนทนาทางโลกและทางธรรม และรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ จนชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ยึดถือปฏิบัติทำให้มีการจัดทำพิธีบวงสรวงบูชาพญานาคทั้ง 7 สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของนครพนมในช่วงก่อนวันออกพรรษา หากใครที่ได้มาร่วมพิธีถือว่าเป็นบุญกุศลจะทำให้มีความสุข และเจริญรุ่งเรืองตลอดไป ส่วนในเรื่องตำนานพญานาคนั้นมีตัวตนแน่นอน แต่แล้วแต่ว่าจิตของแต่ละคน หรือบุญวาสนาของใครที่จะได้พบเห็น.

ขอบคุณข่าวจาก http://www.thairath.co.th