ฮือฮา ชาวอุดรฯแห่กราบไหว้ศพ ปู่ฤาษีไม่เน่าเปื่อย

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.57 ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านในจังหวัดอุดรธานี พากันแห่ไปกราบไหว้ศพของ ปู่ฤาษีไผ่(ไถ่) ที่เสียชีวิตแล้ว 10 เดือน แต่ร่างกายไม่เน่าเปลื่อย อยู่ที่ สำนักสงฆ์นาคำมูล บ.นาคำมูล ม.5 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ปู่ฤาษีไผ่

เมื่อไปถึง พบบรรดาลูกศิษย์จำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมากราบไหว้สักการะร่างปู่ฤาษีไผ่ ที่ลูกศิษย์ได้นำใส่โลงไม้ไว้ นาน 10 เดือน แต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย จึงได้พากันนำร่างปู่ฤาษีไผ่มาไว้ที่โลงแก้ว เพื่อให้บรรดาเหล่าลูกศิษย์ได้กราบไหว้

      โดยทางดาน พระอาจารย์ทรงเดช จิตฺตสํวโร รักษาการหัวหน้าสำนักสงฆ์นาคำมูล ได้กล่าวว่า ปู่ฤๅษีไผ่ (ไถ่) มีนามเดิมชื่อ นายคำไถ่ ไม่ทราบนามสุกล ไม่ทราบวัน เดือน ปีเกิดที่แน่ชัด แต่เมื่อก่อนเสียชีวิตทราบว่าอายุราว 100 ปี เป็นชาว อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งปู่ฤๅษีไผ่ ก่อนที่จะมาครอง สมณเพศฤๅษีนั้น เคยบวชเป็นพระและรับใช้เป็นศิษย์หลวงพ่อพิบูลย์ วัดพระแท่น (วัด บ้านแดง) อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี หลังหลวงพ่อพิบูลย์มรณภาพได้ลาสิกขามามีครอบครัว จากนั้นได้พบกับหลวงปู่สำเร็จลุน จึงได้บวชอีกครั้ง แล้วฝากตัวเป็นศิษย์พร้อมเรียนวิชาทางธรรมจนสำเร็จ เมื่อสำเร็จได้ขอลากลับบ้านเพื่อมาเยี่ยมโยมแม่ ที่ จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นได้ธุดงค์จำพรรษาตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ไหนมีเกจิอาจารย์เก่งๆ ท่านก็จะไปขอร่ำเรียนวิชา

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์นาคำมูล บ.นาคำมูล ม.5 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ลูกศิษย์ได้แจ้งว่า ศพของฤๅษีไผ่ (ไถ่) ซึ่งเสียชีวิตไป 10 เดือน ซึ่งลูกศิษย์ได้นำใส่โลงไม้ไว้ไม่เน่าเปื่อย จึงได้นำมาใส่ในโลงแก้วไว้เพื่อให้ลูกศิษย์มากราบไหว้สักการะ โดย พระอาจารย์ทรงเดช จิตฺตสํวโร รักษาการหัวหน้าสำนักสงฆ์นาคำมูล เปิดเผยว่า ปู่ฤๅษีไผ่ (ไถ่) นามเดิมนายคำไถ่ ไม่ทราบนามสุกล ไม่ทราบวัน เดือน ปีเกิดที่แน่ชัด แต่เมื่อก่อนเสียชีวิตทราบว่าอายุราว 100 ปี เป็นชาว อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งปู่ฤๅษีไผ่ ก่อนที่จะมาครอง สมณเพศฤๅษีนั้น เคยบวชเป็นพระและรับใช้เป็นศิษย์หลวงพ่อพิบูลย์ วัดพระแท่น (วัด บ้านแดง) อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี หลังหลวงพ่อพิบูลย์มรณภาพได้ลาสิกขามามีครอบครัว จากนั้นได้พบกับหลวงปู่สำเร็จลุน จึงได้บวชอีกครั้ง แล้วฝากตัวเป็นศิษย์พร้อมเรียนวิชาทางธรรมจนสำเร็จ เมื่อสำเร็จได้ขอลากลับบ้านเพื่อมาเยี่ยมโยมแม่ ที่ จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นได้ธุดงค์จำพรรษาตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ไหนมีเกจิอาจารย์เก่งๆ ท่านก็จะไปขอร่ำเรียนวิชา

         ด้วยอุปนิสัยของปู่ฤๅษีไผ่ มีนิสัยสันโดษ ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักท่านมากนัก มีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้จักนิสัย ซึ่งท่านไม่ชอบให้ใครถามถึงประวัติความเป็นมา ส่วนใหญ่ท่านจะเล่าให้ฟังเอง ท่านมักจะชอบธุดงค์ออกไปตามคำเชิญของลูกศิษย์ ซึ่งการอยู่การกินท่านก็จะแบบง่ายๆ คือจะนำอาหารทั้งคาวหวานมาใส่รวมๆ กันแล้วกิน ทั้งนี้ปู่ฤๅษีไผ่ได้เปลี่ยนการครองสมณเพศจากพระภิกษุมาเป็นฤๅษีโดยไม่ทราบ แน่ชัดว่าเพราะเหตุใด ซึ่งท่านได้ครองสมณเพศฤๅษีมา 9 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็เสียชีวิตด้วยโรคชรา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้ ก่อนปู่ฤๅษีไผ่ จะเสียชีวิตลงได้บอกให้ลูกศิษย์ว่าอย่านำศพไปเผาหรือฝังมันจะอายเขา ให้ทำตามแบบอย่างที่มีมา ซึ่งช่วงแรกลูกศิษย์ก็นำร่างใส่โลงไม้ แต่เมื่อพบว่าร่างกายไม่เน่าเปื่อย จึงได้นำใส่ในโลงแก้ว ตั้งไว้ ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้เพื่อให้ลูกศิษย์ได้กราบบูชาสักการะ

ที่มาข่าว http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5EazRNRGc0T0E9PQ==&sectionid=